ขณะที่เขียนนี้ กำลังอยู่บนแพที่ แพคีรีวาริน รีสอร์ท ณ.เขื่อนเชี่ยวหลาน (หรือปัจจุบันคือเขื่อนรัชชประภา เมื่ออดีตมีชื่อเรียกว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน) กลางคืนอากาศเย็นกำลังสบาย คลื่นลมแรงพอให้แพสั่นไหว โคลงเคลง เบาๆ แต่บนนี้ไม่มีทั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตและ โทรศัพท์…
ในฐานะที่ผมทำ IM เป็นอาชีพหลัก การที่ต้องอยู่แบบไม่มึอินเตอร์เน็ต ดูเป็นเรื่องประหลาดไปซักหน่อย ดูมันคันไม้ คันมือ พิกล -,,-
แต่ก็แลกมาด้วย บรรยากาศ ที่สุดแสนจะชิว สบายอารมณ์ มาก เหมาะแก่การหนีมานั่งๆ นอนๆ ปลดปล่อยอารมณ์ ไปกับเสียงนก เสียงน้ำ สบายแท้ พูดเลย ^^
กิจกรรมของที่นี่ นอกจากพวก แพ็คเกจเสริมที่พาไปชมนก ชมไม้ ชมสัตว์ ดูพระอาทิตย์ตก เที่ยวชมถ้ำประการัง(จริงๆก็คือ ถ้ำหินงอกหินย้อย ที่มีลักษณะคล้ายๆ ประการัง) ซึ่งรวมๆก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็คือเที่ยวชมธรรมชาติ ใครหวังจะมาเล่นเครื่องเล่นมากมาย แนะนำไปสวนน้ำดีกว่าครับ
จุดท่องเที่ยวสำคัญของเขื่อนเชี่ยวหลานเลยคือ กุ้ยหลินเมืองไทย ครับ ทำไมต้องมีคำว่าเมืองไทยต่อท้าย เพราะต้นฉบับมันมากจากจีนครับ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ธรรมชาติตระการตา ถ้ำงาม น้ำใส ภูเขาน้อยใหญ่
จุดเด่นๆ ของที่นี่เลยคือ ขอนไม้กลางน้ำที่แทบทุกคนที่ไปต้องพายเรือคายัค แล้วมุ่งตรงไหนยังขอนไม้ตรงนี้เพื่อเล่นกัน เหมือนไม่มีอะไร แต่ไปแล้วสนุกครับ ^^
เข้าเรื่องปากท้องกันนิดหน่อย
อาหารการกิน
อาหาร – รสชาติดีใช้ได้เลยครับ ไม่อิ่มเติมได้ไม่อั้น ถูกใจมากครับข้อนี้ เราลงชื่อจองไป 9 คน ก็ได้นั่งแยกกันโต๊ะนึง 4 คน โต๊ะนึง 5 คน แต่เอาจริงๆ ไปได้แค่ 8 คน เลยนั่งกินกันโต๊ะละ 4 คน อิ่มจนจุกครับ งานนี้
มื้อเช้า – ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารเบาๆ ครับ โจ๊ก ข้าวต้ม ผัดหมี่ อะไรแบบนี้ แต่วันที่ 2 มี American breakfast ไข่ดาว ไส้กรอก ขนมปัง สลัด อะไรพวกนี้ครับ แต่พวก ข้าวต้มก็ยังมีเหมือนเดิมครับ
มื้อเที่ยง และมื้อเย็น – จัดหนักทุกมื้อครับ ผัดผัก แกงจืด แกงเหลือง แกงส้ม ไข่เจียว ปลาทอด น้ำพริก มาครบ
รสชาติ – อาหารโดยรวมแล้วออก ภาคกลางๆ ครับ ไม่ได้มาเป็นอาหารใต้เท่าไหร่ น่าจะทานกันได้ทุกคน
ห้องพัก
ครั้งนี้ไปพักห้องที่เป็น Villa ครับ พักได้ ประมาณ 8-10 คน เป็นบ้าน 2 ชั้น มีที่นอนทั้ง บนและล่าง มีห้องอาบน้ำ 2 ห้อง และห้องส้วม 2 ห้อง เรียกว่า อยู่กันได้แบบสบายๆ ไม่อึดอัดครับ
การเดินทาง
พวกเราซื้อ Package ตั้งแต่งาน ททท ก็เลยได้ราคาถูก (รึเปล่า -*-) เริ่มจาก
– ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Thai smile รอบ 8.10 ถึงสนามบินสุราษประมาณ 9 โมงครึ่ง
– แล้วจะมีรถตู้ของทางแพคีรีวารินมารับไปส่งที่ท่าเรือเขื่อนรัชชประภา
– ขึ้นเรือต่อไปที่แพ ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ กินลมชมวิวไปเรื่อยๆครับ เดี๋ยวก็ถึง
เรือที่นั่งไปก็ ประมาณนี้ครับ เรือหางยาวติดเทอร์โบ ฮ่าฮ่า
บรรยากาศตรงท่าเรือก็ ประมาณนี้ครับ ใหญ่โต เรือจอดรอรับส่งนักท่องเที่ยวมากมาย คนต่างชาติก็ เยอะมากครับ
น้องคนขับเรือ นิสัยดีมากครับ เฮฮา แรกๆไป เค้าก็ไม่ฮามาก พอไปซักพักเริ่มคุ้นเคย ตบมุขกันเพลินเลยครับ 55
โดยคนขับเรือคนนี้จะรับหน้าที่ดูแลพวกเราทลอดทริปนี้ครับ ไม่ว่าจะพาไป เยี่ยมชมที่ต่างๆ รึว่า ถ้าระหว่างที่อยู่บนแพ เกินมีปัญหาอะไร ติดต่อคนนี้ได้เลยครับ
แพคีรีวารินดีไหม ?
ถ้าตามความคิดผมถือว่าดีใช้ได้ในทุกเรื่องครับ อาหารการกิน การบริการ บรรยากาศ ราคาไม่แพงมาก รวมๆ เหมาะแก่การมาพักผ่อนมากครับ แนะนำเลยครับ 🙂
จนวันอาทิตย์ เราก็ ต้องออกจาก แพ ประมาณ 10 โมงเช้า
ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนกำลังจะหมดไป เพื่อกลับเข้าฝั่งกลับมาสู่โลกความเป็นจริง ที่ทุกอย่างแลดูเร่งรีบไปหมด ถ้าเป็นไปได้ การมาใช้ชีวิตที่หนีจากชีวิตคนเมืองที่วุ่นวาย มาใช้ชีวิต เรียบง่าย อยู่กับลมกับฟ้า โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ ทำให้ นี่เป็นทริปที่ไม่มี สังคมก้มหน้า ที่แต่ละคนมองแต่หน้าจอของตัวเอง แต่เปลี่ยนเป็น แต่ละคนหันหน้าหากัน ได้มีเวลาพูดเล่น พูดคุยกัน ได้ใช้เวลาร่วมกัน แบบนี้แหล่ะ ความสุขที่ไม่ได้หาได้ง่ายๆ ในทุกวันนี้ ^^
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนๆ ผู้ร่วมทริป ทุกคนมากครับ สนุก และมีความสุขมากครับ เจอกันทริปหน้า ^^
Big Day
Big Thank
Big Trip
Big Journey
